5 คำแนะนำแนวทางการลงทุนช่วงสงครามของนักลงทุนระดับโลก

ภาพรถถังและเหรียญทองสื่อถึงการลงทุนช่วงสงคราม

นักลงทุนระดับโลกมีความเห็นกับการลงทุนช่วงสงครามยังไงบ้าง ?

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มเกิดสงครามได้ตลอดเวลา นักลงทุนจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น เพราะสงคราม รวมถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังส่งแรงสั่นสะเทือนไปถึงเศรษฐกิจและตลาดการเงินทั่วโลกอีกด้วย บทความนี้จึงจะมาหยิบยกคำแนะนำการลงทุนช่วงสงครามจากนักลงทุนระดับตำนาน 5 ท่าน ที่พวกเขาล้วนมีประสบการณ์และผ่านวิกฤตการณ์มาแล้วมากมาย เชื่อว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถนำพาพอร์ตการลงทุนผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนไปได้ ติดตามเลย

Ray Dalio: กระจายความเสี่ยงและเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์
Ray Dalio ผู้ก่อตั้งบริษัทบริหารการลงทุน Bridgewater Associates เป็นที่รู้จักในฐานะนักลงทุนที่มีมุมมองกว้างไกล เข้าใจกลไกเศรษฐกิจโลกอย่างลึกซึ้ง โดยคำแนะนำการลงทุนช่วงสงครามของเขาคือการสร้าง All Weather Portfolio หรือพอร์ตการลงทุนที่สามารถทนทานต่อสภาวะตลาดที่แตกต่างกันได้

Dalio เชื่อว่าการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพของพอร์ตในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง เขาแนะนำให้จัดสรรการลงทุนออกเป็นสัดส่วนดังนี้:

  • 30% ในหุ้น เพื่อรับผลตอบแทนในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโต
  • 40% ในพันธบัตรระยะยาว เพื่อป้องกันความเสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
  • 15% ในพันธบัตรระยะกลาง เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทน
  • 7.5% ในทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางการเมือง
  • 7.5% ในสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อกระจายความเสี่ยงและรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ


Dalio ย้ำว่าการจัดสรรสินทรัพย์แบบนี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจเติบโต ถดถอย เงินเฟ้อ หรือเงินฝืด โดยเฉพาะการลงทุนช่วงสงครามที่มีความไม่แน่นอนสูง การมีพอร์ตที่สมดุลจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดได้

Warren Buffett: การรักษาสภาพคล่องในยามวิกฤติ

นักลงทุนในตำนานและซีอีโอของ Berkshire Hathaway อย่าง Warren Buffett เน้นย้ำบ่อยครั้งถึงความสำคัญของการรักษาสภาพคล่องพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูงเช่นในยามสงคราม

สำหรับการลงทุนช่วงสงคราม Buffett แนะนำให้นักลงทุนเก็บเงินสดหรือสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงไว้ในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รวมถึงฉวยโอกาส ช้อนเมื่อราคาสินทรัพย์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

เพราะในช่วงสงคราม ตลาดการเงินมักจะมีความผันผวนสูง นำมาซึ่งโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจ การมีเงินสดพร้อมใช้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในราคาที่ถูกลงได้ นอกจากนี้ การมีสภาพคล่องที่เพียงพอยังช่วยให้นักลงทุนสามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือโอกาสทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากได้

อย่างไรก็ตาม Buffett ทิ้งท้ายด้วยคำเตือนว่า จำนวนเงินสดที่ถืออยู่ก็ไม่ควรมากเกินไป เพราะในระยะยาวอาจมีโอกาสเกิดวิกฤติเงินเฟ้อ ทำให้มูลค่าของเงินลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้น การรักษาสมดุลระหว่างการมีสภาพคล่องที่เพียงพอและการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจึงเป็นกุญแจสำคัญของการลงทุนช่วงสงคราม

Charlie Munger: การรักษาความสงบ ไม่ตกใจตามกระแสตลาด

คู่หูนักลงทุนผู้ล่วงลับของ Warren Buffett อย่าง Charlie Munger ก็มีคำแนะนำการลงทุนช่วงสงคราม ที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน โดยเขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการควบคุมอารมณ์และการคิดอย่างมีเหตุผลในช่วงสงครามที่ตลาดผันผวนสูง

Munger เชื่อว่าความสำเร็จในการลงทุนไม่ได้ขึ้นอยู่กับความฉลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการควบคุมอารมณ์และไม่ทำตามกระแสตลาดอย่างไร้เหตุผล ในช่วงสงคราม ตลาดหุ้นมักผันผวนอย่างรุนแรง ทำให้นักลงทุนหลายคนตื่นตระหนกและตัดสินใจขายสินทรัพย์ที่ตนถือครองไว้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่ Munger แนะนำให้นักลงทุนรักษาความสงบ ใช้เวลาพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนช่วงสงคราม

นอกจากนี้ Munger ยังแนะนำให้นักลงทุนยึดมั่นในหลักการพื้นฐานของการลงทุน เช่น การวิเคราะห์มูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ไม่หวั่นไหวไปกับความผันผวนของราคาในระยะสั้น การเข้าใจที่ลึกซึ้งในธุรกิจที่ลงทุนย่อมช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นในการตัดสินใจ แม้ในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง

 

Jim Rogers: มองหาโอกาสในประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง

Jim Rogers ผู้ร่วมก่อตั้ง Quantum Fund มีมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุนช่วงสงคราม โดยเขาแนะนำให้นักลงทุนมองหาโอกาสในประเทศหรือภูมิภาคที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความขัดแย้ง

Rogers เชื่อว่าในขณะที่ประเทศที่เกี่ยวข้องกับสงครามโดยตรงอาจเผชิญกับความเสียหายทางเศรษฐกิจ ประเทศอื่น ๆ อาจได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานโลกหรือการเพิ่มขึ้นของความต้องการสินค้าบางประเภท เช่น:

  • ประเทศที่เป็นผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์อาจได้รับประโยชน์จากราคาสินค้าที่สูงขึ้น
  • ประเทศที่มีนโยบายเป็นกลางอาจกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินหรือการค้าระหว่างประเทศแทนประเทศที่อยู่ในความขัดแย้ง
  • ประเทศที่มีอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่แข็งแกร่งอาจได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของความต้องการอาวุธยุทโธปกรณ์

 

คำแนะนำการลงทุนช่วงสงครามของ Rogers คือให้นักลงทุนศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบของสงครามต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรอบด้าน รวมถึงมองหาโอกาสในการลงทุนในประเทศหรือภูมิภาคที่อาจได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศ

George Soros: เข้าใจ Reflexivity และพร้อมปรับเปลี่ยนมุมมอง

George Soros นักลงทุนเจ้าของฉายา พ่อมดการเงิน เป็นที่รู้จักจากแนวคิด Reflexivity ที่เขาพัฒนาขึ้น ซึ่งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความคิดของผู้มีส่วนร่วมในตลาดกับสถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญ แนวคิดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการลงทุนช่วงสงครามที่มีความไม่แน่นอนสูง

Soros แนะนำให้นักลงทุนตระหนักว่าการรับรู้และการตัดสินใจของผู้คนในตลาดสามารถส่งผลกระทบต่อสถานการณ์จริง และในทางกลับกัน สถานการณ์จริงก็ส่งผลต่อการรับรู้และการตัดสินใจของผู้คนเช่นกัน วงจรนี้สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิดในตลาดการเงิน

ในบริบทของการลงทุนช่วงสงคราม Soros เน้นย้ำความสำคัญของการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยมีหลักดังนี้:

  1. ไม่ยึดติดกับความเชื่อหรือทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่งมากเกินไป: สถานการณ์สงครามมีพลวัตสูง และสิ่งที่เคยถูกต้องในอดีตอาจไม่เป็นจริงในปัจจุบัน
  2. พร้อมที่จะยอมรับว่าการวิเคราะห์ของตนอาจผิดพลาดได้: Soros เชื่อว่าความสามารถในการยอมรับความผิดพลาดและปรับเปลี่ยนมุมมองอย่างรวดเร็วเป็นคุณสมบัติสำคัญของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
  3. มองหา จุดเปลี่ยน ในตลาด: สงครามอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก นักลงทุนที่สามารถระบุจุดเปลี่ยนเหล่านี้ได้อาจได้เปรียบในการปรับกลยุทธ์การลงทุน
  4. พิจารณาผลกระทบระยะยาว: แม้ว่าสงครามอาจส่งผลกระทบรุนแรงในระยะสั้น ทว่า Soros แนะนำให้นักลงทุนพิจารณาการลงทุนช่วงสงครามโดยคำนึงถึงผลกระทบระยะยาวต่อเศรษฐกิจโลก ภูมิรัฐศาสตร์ และโครงสร้างอุตสาหกรรมต่าง ๆ

 

นอกจากนี้ Soros ยังเน้นย้ำว่า ในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูงเช่นในยามสงคราม ความยืดหยุ่นทางความคิดและความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วมีความสำคัญมากกว่าการยึดมั่นในทฤษฎีหรือกลยุทธ์ใดกลยุทธ์หนึ่ง

 

ปรับพอร์ตลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ปรึกษา Money Adwise

เชื่อว่าคำแนะนำการลงทุนช่วงสงครามจากเหล่าปรมาจารย์เหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับนักลงทุนไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม การที่แต่ละบุคคลมีลักษณะเฉพาะที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป้าหมายการลงทุน ความเสี่ยงที่รับได้ ไปจนถึงมูลค่าพอร์ต ดังนั้น ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ก็ควรมีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญมาเป็นผู้ช่วยในการวางแผนปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นได้อย่างตรงจุด โดยขอแนะนำนักวางแผนทางการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ CFP® จาก Money Adwise ที่พร้อมช่วยคุณวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ทุกเป้าหมายเป็นจริงได้ ตอบโจทย์ทั้งการจัดพอร์ตลงทุนปันผล จัดพอร์ตกองทุนรวม และทุกสินทรัพย์ที่ต้องการ สามารถนัดปรึกษาครั้งแรกฟรี ลงทะเบียนในหน้าเว็บไซต์ได้เลย

 

ข้อมูลอ้างอิง

How War Affects the Modern Stock Market. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 จาก https://www.investopedia.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้